กุ้งก้ามกราม! สัตว์น้ำที่เก่งว่ายและเป็นนักล่าที่น่ากลัว

กุ้งก้ามกราม (Ghost shrimp) หรือที่เรียกกันในวงการวิทยาศาสตร์ว่า Palaemonetes paludosus เป็นสมาชิกของครอบครัวกุ้งฝอยซึ่งพบได้ทั่วไปในแหล่งน้ำจืดของทวีปอเมริกาเหนือ จากชื่อของมัน ‘Ghost shrimp’ คุณคงจะเดาได้แล้วว่าเจ้าสัตว์ตัวนี้มีสีและลวดลายที่ช่วยให้มันพรางตัวได้อย่างยอดเยี่ยม

กุ้งก้ามกรามเป็นสัตว์ที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก โดยความยาวของลำตัวโดยเฉลี่ยจะอยู่ระหว่าง 3-5 เซนติเมตร ลำตัวยาว slender และแบนราบเล็กน้อย ส่วนหัวมีหนวดสองคู่ หนวดที่ยาวกว่าใช้ในการสำรวจสิ่งแวดล้อมและตรวจจับเหยื่อในขณะที่หนวดคู่สั้นกว่าช่วยในการรับรู้กลิ่น

สีของกุ้งก้ามกรามจะขึ้นอยู่กับประเภทของพื้นทรายที่มันอาศัยอยู่ ตัวอย่างเช่น กุ้งก้ามกรามที่อาศัยอยู่ในพื้นทรายสีเข้มจะมีสีเข้มกว่ากุ้งก้ามกรามที่อาศัยอยู่ในพื้นทรายสีอ่อน แม้ว่าจะเป็นสัตว์ที่โปร่งใส แต่กุ้งก้ามกรามก็มักจะถูกมองเห็นเป็นสีเทาหรือน้ำตาลอ่อนเนื่องจากการสะสมของตะกรันและสาหร่ายบนเปลือก

กุ้งก้ามกรามเป็นสัตว์ที่กิน tạpพิษ ซึ่งหมายความว่ามันจะกินทั้งพืชและสัตว์ อาหารหลักของกุ้งก้ามกราม bao gồm algae, detritus, และ invertebrate เล็กๆ เช่น ใส้เดือนดิน, ตัวอ่อนแมลง และ crustaceans อื่นๆ ที่มีขนาดเล็กกว่า

กุ้งก้ามกรามเป็นสัตว์ที่หากินตามพื้นทราย มันจะใช้ขานิ้วของมันในการขุดและค้นหาเหยื่อที่ซ่อนอยู่ใต้ก้อนหินหรือตะไคร่

กุ้งก้ามกรามเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในน้ำจืด และพบได้ทั่วไปในแหล่งน้ำที่ไหลช้า เช่น คลอง, แหล่งน้ำ, และบึง

มันมักจะอาศัยอยู่ใต้ก้อนหิน หรือ ในรากของต้นไม้ กุ้งก้ามกรามชอบที่จะอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีความลึกไม่เกิน 2 เมตร และมีอุณหภูมิของน้ำประมาณ 18-25 องศาเซลเซียส

เมื่อถึงเวลาผสมพันธุ์ กุ้งก้ามกรามตัวเมียจะวางไข่จำนวนมาก ไข่เหล่านี้จะถูกติดอยู่กับขาหลังของตัวเมีย จนกระทั่งฟักเป็นตัวอ่อน กุ้งก้ามกรามตัวอ่อนจะกินแพลงกlankton และ algae

กุ้งก้ามกรามเป็นสัตว์ที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี มันสามารถทนต่อระดับออกซิเจนต่ำได้ และยังสามารถย้ายไปอยู่แหล่งน้ำใหม่ได้เมื่อสภาพแวดล้อมเดิมไม่เหมาะสม

ลักษณะ	คำอธิบาย
ขนาด	3-5 เซนติเมตร
รูปร่าง	ลำตัวยาว slender และแบนราบเล็กน้อย
สี	เทา, น้ำตาลอ่อน (ขึ้นอยู่กับสีของพื้นทราย)
หนวด	2 คู่ (คู่หนึ่งยาว, อีกคู่หนึ่งสั้น)

กุ้งก้ามกรามเป็นสัตว์ที่น่าสนใจตัวหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศ มันเป็นอาหารของสัตว์อื่นๆ และยังช่วยในการควบคุมจำนวนประชากรของ invertebrate เล็กๆ ที่เป็นเหยื่อของมัน